เราโดนผีหลอกในเชียงใหม่!!..เรื่องหลอนจากPANTIP
พอดีมีโอกาสตามแฟนไปทำงานทางภาคเหนือค่ะ มีอยู่วันหนึ่งเราทำงานที่เชียงรายเสร็จ
แฟนก็ขับรถเข้ามาดูงานที่เชียงใหม่ต่อเลย เราจึงได้โทรจองห้องพักไว้ 1 ห้อง
กับทางโรงแรมปาง ..... ?? (ตรงข้ามกับคำว่านรกอะค่ะ) เรากับแฟนไปถึงโรงแรมเกือบ 3 ทุ่ม
ก็ตรงไปเช็คอินทันที เราได้ห้องชั้น 3 ค่ะ ตอนนี้จำเลขที่ห้องไม่ได้แล้วนะคะ
จำได้แต่ว่าพอเราเดินขึ้นบันไดมาก็จะเจอกับประตูห้องนี้เลยค่ะ ครั้งแรกที่เห็นหน้าห้อง
เราบอกแฟนเลยว่าไม่เอาห้องนี้ !!! ให้ไปเปลี่ยน เพราะห้องมันอยู่ตรงทางสามแพร่ง
โบราณเค้าถือว่าเป็นทางผีผ่าน แต่แฟนไม่ค่อยจะเชื่อเราเท่าไหร่ บอกขอเปิดเข้าไปดูในห้องก่อน
พอเราก้าวเข้าไปในห้อง .. เท่านั้นแหละ เราเริ่มที่จะหายใจไม่ค่อยออกเลยค่ะ รู้สึกอึดอัด
และวังเวงมาก อย่างบอกไม่ถูก ในห้องมีกลิ่นอับๆ ชื้นๆ ไม่รู้สึกปลอดโปร่ง
เหมือนห้องอื่นๆที่เคยพักมา เราจึงขอร้องแฟนให้ไปเปลี่ยนห้องเถอะ
แฟนจึงลงไปที่ฟรอนท์ขอเปลี่ยนห้องใหม่
แต่ .. เวรกรรม !!! ห้องเต็มหมดแล้ว
เหลือห้องนี้ห้องเดียวเท่านั้น เป็นเพราะเรามาเช็คอินค่ำไปค่ะ
และตอนนี้แฟนเราก็จะต้องรีบออกไปคุมงานต่อ ส่วนตัวเราก็เป็นไข้
ต้องการพักผ่อนแล้วด้วย จึงต้องจำยอมค่ะ เป็นไงเป็นกัน เราอาจคิดมากไปเองก็ได้
เมื่อแฟนออกไปทำงานต่อ เราจึงคิดที่จะกินยาลดไข้ และนอนหลับเพื่อฆ่าเวลา
ที่ต้องรอแฟนกลับมา ... เรามอง และเดินสำรวจภายในห้อง ห้องนี้เป็นห้องเตียงคู่ค่ะ
มีเตียง 3.5 ฟุต 2 ตัววางคู่กัน คั่นกลางด้วยโต๊ะวางโทรศัพท์
มีตู้เสื้อผ้าใบใหญ่วางติดกับผนังใกล้กันกับประตูห้อง ถัดมาจึงเป็นเตียงตัวแรก
และก็เตียงตัวที่สอง ซึ่งข้างเตียงตัวที่สองนั้น จะมีชุดเก้าอี้ไม้เก่าๆวางอยู่ 1 ชุด
ซึ่งจัดวางอยู่ติดกับผนังของห้องน้ำ ส่วนประตูห้องน้ำก็จะอยู่อีกทางหนึ่งของกำแพงนั้น
ซึ่งเมื่อเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก็จะเจอกับอ่างล้างหน้าอยู่ทางด้านซ้ายมือพอดี
เมื่อสำรวจห้องเสร็จเราก็กินยาลดไข้ และหลับไปเลยค่ะ เราหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้
แต่มารู้สึกตัวอีกทีตอนได้ยินเสียงแฟนกลับมา และเปิดประตูเบาๆ
เดินเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ เสียงก้าวเท้าของแฟนเรา เราได้ยินชัดมากค่ะ
แต่ตอนนั้นเราลืมตาไม่ขึ้นเลย เหมือนว่ายังง่วงอยู่มากๆ อาจเพราะกินยาลดไข้เข้าไปด้วย
เสียงแฟนเดินตอนนั้นดังขึ้นเพียงไม่กี่ก้าวแล้วก็เงียบไปค่ะ ... เงียบสนิท
เราคิดว่าแฟนกลับมา และคงนั่งพักอยู่ที่เตียงอีกตัวนั่นแหละ แต่คงไม่กล้าปลุกเรา
เพราะเห็นว่าเราไม่สบาย เราเลยนอนหลับต่อค่ะ รู้สึกอุ่นใจขึ้นมากที่แฟนกลับมาถึงห้องซักที
เราจะบอกทุกคนว่า เราเลือกนอนเตียงตัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำค่ะ เรานอนปิดไฟห้องทั้งหมด
เปิดไฟในห้องน้ำไว้แค่ดวงเดียวเท่านั้น เพราะเราเป็นโรคถ้าไม่ปิดไฟห้องเราจะนอนไม่หลับเลยค่ะ
หลังจากที่ได้ยินเสียงแฟนกลับมาเราก็หลับต่อ
สักพักเราเริ่มได้ยินเสียงแฟนเดินอีกรอบแล้วค่ะ คราวนี้เสียงเดินมาหยุดที่ข้างเตียงของเรา ตรงชุดเก้าอี้ไม้เก่าๆข้างเตียง แต่เราก็ยังลืมตาไม่ขึ้นเหมือนเดิม ได้ยินแต่เสียง และรู้สึกได้ว่าแฟนมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวนั้น แฟนเราชอบมานั่งทำงานพิมม์คอมที่โต๊ะค่ะ สักพักเราก็หลับต่อ หลับไปนานแค่ไหนไม่รู้
เราก็ตื่นค่ะ มองไปรอบห้อง เงียบ ว่างเปล่า !!! เลยลุกไปดูที่ห้องน้ำพร้อมเรียกชื่อแฟน
โอ้ววววววไม่มีค่ะ !!! เราอยู่คนเดียว เท่านั้นแหละ เรารีบวิ่งไปเปิดไฟหมดทั้งห้องเลย
หยิบมือถือดูเวลา 5ทุ่มครึ่งได้แล้วค่ะ เรารีบโทรหาแฟน บอกให้แฟนรีบกลับห้องด่วนเลย
และเล่าให้แฟนฟังว่าเราเจออะไรตอนที่หลับอยู่ แฟนบอกว่าเราอาจจะฝัน เพราะคิดมากไปรึเปล่า
และแฟนบอกจะรีบกลับทันที แฟนกลับมาถึงตอนเที่ยงคืนกว่าค่ะ ซื้อข้าวมานั่งกินกันที่ห้องด้วย
ระหว่างนั้น เราก็เล่าให้แฟนฟังอีกรอบ และยืนยันว่าเราได้ยินเสียงคนเดินจริงๆ คิดว่าพี่กลับมา
แต่ดูเหมือนแฟนจะไม่ค่อยเชื่อเราเท่าไหร่ค่ะ พอกินข้าวเสร็จบอกให้เรากินยา และไล่ให้ไปนอนต่อ
ตอนนั้นประมาณเกือบๆตี 2 ได้ค่ะ เรากับแฟนก็หลับ นอนกันคนละเตียง ปิดไฟหมดทั้งห้อง
เปิดไฟห้องน้ำไว้เพียง 1 ดวงเหมือนเดิม เรานอนหลับไปได้สักพัก เริ่มรู้สึกตัว
อีกละไง !! คราวนี้เราได้ยินเสียงน้ำที่อ่างล้างหน้าไหลค่ะ ไหลเบาๆเหมือนมีคนกำลังยืนล้างมืออยู่
เราก็นอนฟังไปเรื่อยๆ คิดว่าแฟนคงลุกไปเข้าห้องน้ำแน่ๆ แต่ .. แต่ .. แต่ มันเริ่มนานค่ะ
เราก็งงว่าทำไมแฟนไม่ออกมาสักที คราวนี้เราเลยปลายหางตาไปมองที่เตียงแฟนค่ะ
ตอนนั้นเรานอนหงายอยู่ ... พระเจ้า !!! แฟน .. แฟนนอนอยู่บนเตียง ใจเริ่มเต้นรัว
มือไม้เย็นไปหมดแล้วค่ะ ตาเรากลับไปจ้องที่แสงไฟ ซึ่งกระทบกับกำแพงของห้องนั้นทันที
และแล้ว เสียงน้ำไหลนั้นก็ค่อยๆเงียบลงไป ... แต่กลับมีเงาดำๆสิ่งหนึ่งก้าวออกมาแทนค่ะ
มันเป็นเงาดำๆของขาข้างหนึ่งก้าวออกมาอย่างช้าๆ ช้าๆ จนเงาดำนั้นเริ่มโผล่ออกมาได้ครึ่งตัว
เท่านั้นแหละ !!! เรารู้เลยค่ะ ว่าเราโดนแน่ๆแล้ว รีบบอกกับตัวเองว่าให้หลับตาลงเดี๋ยวนี้
ไม่เอา ไม่อยากมองอีกแล้ว ทันใดนั้นเอง ช่วงเวลาที่เราคิด เหมือนว่าเค้าจะรับรู้ความคิดเราได้
ก่อนที่ตาของเราจะปิดลง เค้าก็รีบพุ่งตัวออกมาจากห้องน้ำทันทีเลยค่ะ
หน้าเค้ามาจ่ออยู่ที่หน้าของเรา เราช็อกมาก เห็นดวงตาของเค้าแบบเต็มๆ ดวงตาเค้าแข็งกร้าว
ตาดำสนิท จ้องมองเราเมือนโกรธแค้น มันเป็นช่วงเวลาเพียงแว๊บเดียวเท่านั้น
ที่เราเห็นดวงตาของเค้า แต่กลับติดตาไม่เคยลืม !! จากนั้นเราก็หลับตาปี๋เลยค่ะ
และร้องกรี๊ดๆๆๆ แต่ว่า ... กลับไม่มีเสียงรอดออกมาจากปากของเราเลย
ตอนนั้นเราเริ่มน้ำตาไหล ร้องไห้เลยค่ะ เพราะกลัวมาก ในใจก็เริ่มสวดมนต์
สวดแบบวกไปวนมาเพราะว่ากลัวเอามากๆ สติแทบหลุด
จากนั้น ... เราเริ่มเหมือนจะหายใจไม่ค่อยออก และตัวก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
มากขึ้นเรื่อยๆ เรารีบสวดมนต์ต่อไปค่ะ ... หวังว่าเค้าจะได้ออกไปจากตัวเราซักที
แต่ ... มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น !! คราวนี้เค้ามาหัวเราะใส่ที่ข้างหูของเราเลย
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าาา.... หึหึหึหึ..... เสียงลากยาวแบบโหยหวนมากเลยค่ะ
ช่วงเวลานั้นเรารู้สึกเหมือนหัวใจมันบีบมากเลยค่ะ ช็อกมาก กลัวมาก
น้ำตาไหล เหงื่อแตกพลัก มือเย็นไปหมด เราพยายามดิ้นสู้ ขัดขืน
เพื่อที่จะลุกขึ้นมาให้ได้ แต่มันก็หมดแรงทุกครั้งไปค่ะ
ตอนนั้นเอง จากที่เรากลัวมากๆ เราก็เริ่มรู้สึกกลายเป็นความโกรธขึ้นมาแทนที่ค่ะ
โกรธที่ทำไมต้องมาทำกันขนาดนี้ด้วย จากที่สวดมนต์อยู่ เราหยุดสวดเลย
ซึ่งขณะนั้นเค้าก็ยังหัวเราะอยู่นะคะ .. คราวนี้เราด่าผีเลยค่ะ ทนไม่ไหวแล้ว !!
" กูไปทำห่าอะไรให้เมิง ไอ้ผีชั่ว ถึงมาหลอกกูแบบนี้ กูขอแช่งเมิง
ถ้าเมิงยังไม่ยอมปล่อยกู กูขอให้เมิงไม่ได้ผุดได้เกิด ให้เมิงต้องเป็นผีเรร่อน
มันไปแบบนี้แหละ !!! แต่ถ้าเมิงยอมออกไป กูก็จะทำบุญไปให้เมิง
เมิงจะเอายังไง !!! " สักพัก ... เสียงหัวเราะนั้นเงียบลงไปเลยค่ะ
แต่เราก็ยังขยับตัว และลืมตาไม่ได้อยู่เหมือนเดิม เราเลยเริ่มดิ้นสู้
และขัดขืนใหม่อีกครั้งในใจก็ทั้งด่าผี และทั้งสวดมนต์ไล่ผีไปด้วย
มั่วตั้วไปหมดหล่ะค่ะ
จนตัวเราในที่สุดก็สามารถหลุดออกมาจนได้
เรารีบเด้งตัวขึ้น กระโดดไปบนที่นอนแฟนทันที เขย่าตัวปลุกแฟน
และร้องลั่นห้องว่า ผีหลอก ผีหลอก น้องโดนผีหลอก !!
แฟนตกใจรีบวิ่งไปเปิดไฟทั้งห้องเลยค่ะ และเอาพระมาห้อยคอเราทันที
ตอนนั้นเรานึกว่าเราจะต้องช็อกตายไปก่อนแล้วซะอีก
ดีที่เค้ายอมปล่อยเราไปซักที เราตัวสั่น เหงื่อแตกเต็มตัวไปหมด
น้ำตานองเต็มหน้าเลย เรามั่นใจว่าไม่ใช่ฝันแน่นอนล้าน%
แฟนปลอบ และบอกให้เรานอนเตียงเดียวกันนี่แหละ
เปิดไฟไว้ทั้งหมด และเปิดทีวีเอาไว้ด้วย จะได้ไม่ดูน่ากลัว
เราก็เลยนอนกอดแขนแฟนอย่างแน่น หันหลังให้กับห้องน้ำ
และหลับไปแบบกลัวๆจนถึงเช้าเลยค่ะ
ตั้งแต่นั้นมา เรา และแฟนก็ไม่กลับไปนอนที่โรงแรมแห่งนั้นอีกเลย !!!
แล้วมีใครเคยไปนอนที่โรงแรมแห่งนี้กันบ้างไหมคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น