หลอนหนักมาก!! ตีสาม สามเดือน - คุณโหน่ง เจอดีที่ญี่ปุ่น!!
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนที่คุณโหน่งได้ไปทำงานที่ญี่ปุ่น คราวนี้คุณโหน่งก็ได้ไปพักอพาร์ทเมนท์ของญี่ปุ่น ตัวอพาร์ทเมนท์จะมี 2 ชั้น จะมีชั้นละ 5 ห้อง คุณโหน่งอยู่ชั้น 2 ห้องกลาง ณ ตอนนั้นทั้งอพาร์ทเมนท์มีคนพักอยู่ 2 ห้อง
เหตุการณ์ก็เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่คุณโหน่งได้ไปพักเลย ก็คือวันนั้นคุณโหน่งเอางานกลับมาทำที่ห้อง ทำงานไปถึงประมาณเที่ยงคืน และคุณโหน่งก็นอนเล่น จึงเผลอหลับไป คราวนี้คุณโหน่งมารู้สึกตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงสวดผู้ชายอยู่ที่ข้างหูเลย เป็นภาษา ภาษานึงที่ฟังไม่รู้เรื่อง เสียงสวดนั้นก็อยู่ประมาณเป็นนาที
แต่ด้วยความที่เผลอหลับไป แล้วไม่ได้ปิดไฟในห้อง แต่ตอนที่คุณโหน่งสะดุ้งตื่นขึ้นมา ไฟในห้องนั้นปิดหมดเลย แต่ไฟหน้าจอคอมยังดับ แต่ด้วยแสงที่จากหน้าจอคอมที่มันส่อง ทำให้คุณโหน่งเห็นประตูห้องนอนมันเปิดอยู่ หางตาคุณโหน่งก็เห็นหน้าผู้หญิงโผล่มาครึ่งนึง หน้าดำมาก และผมยาวมาก แต่ตาขาวโพลนและจ้องมาที่คุณโหน่ง แล้วก็หัวเราะใส่ เป็นเสียงเล็กๆยาวๆ ณ ตอนนั้นด้วยความที่อยู่คนเดียว เป็นตกอยู่ในผวังค์อะไรซักอย่าง ก็ทำให้คุณโหน่งหลับตาไปเอง แต่ว่าเสียงสวดนั้นก็ยังก้องอยู่ เหตุการณ์คืนแรกก็ประมาณนี้
คราวนี้มาวันที่ 2 เหตุการณ์จะต่างกันหน่อยก็คือวันนี้คุณโหน่งไม่ได้เผลอหลับ คราวนี้ตั้งใจนอนแล้ว ก็คือปิดไฟทุกดวงหมด (ระหว่างที่คุณโหน่งเล่าถึงตอนนี้ พี่ป๋องเหมือนได้ยินเสียงสวด) และคุณโหน่งสะดุ้งขึ้นมา คุณโหน่งก็ดูนาฬิกาก่อนเลย เวลานั้น ตี 2.55 คืนนี้มันกลับกัน คือไฟทุกดวงในห้องดันเปิดหมด ที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาเนี่ย คุณโหน่งขยับตัวไม่ได้ แต่ตานี่เบิกโพลงหมด คือคุณโหน่งได้ยินเสียงคนอาบน้ำในห้องน้ำ เป็นเสียงฝักบัว คุณโหน่งก็อธิบายว่า
ตอนสะดุ้งตื่นมา สายตาจะไปอยู่ตรงประตูห้องน้ำพอดี เสียงอาบน้ำก็เป็นเวลานานจนถึงเวลา ตี 3 พอดี มีผู้หญิงอยู่คนนึง เดินออกมาจากห้องน้ำ ลักษณะคือใส่กางเกงยีนส์ ใส่เสื้อสีขาว ผมยาวมาก จนถึงหัวเข่า แล้วก็เดินมานั่งบนโต๊ะใกล้ๆคุณโหน่ง แล้วก็เอามือสองมือจับเข่าแล้วก็โน้มตัวลงมานิดนึงมองมาที่คุณโหน่ง (ตรงนี้คุณโหน่งเล่าว่าเห็นชัดเป๊ะ 100%) เขาก็จ้องหน้าคุณโหน่ง และก็มีเสียงสวดก้องอยู่ในหัวตลอดเวลา
แต่พอได้ยินเสียงสวดไปซักระยะหนึ่ง คุณโหน่งก็เหมือนหลับๆตื่นๆ ผ่านไปซักครู่หนึ่ง เขาก็เดินย้อนกลับไปที่ห้องน้ำ คราวนี้ไฟนี่ไล่ปิดดับมาทีละดวงๆ เหมือนประมาณในหนัง ณ ตอนนั้นทุกอย่างมันเงียบหมด และก็มีเสียงหัวเราะแว่วออกมาจากทางห้องน้ำ นี่คือเหตุการณ์ในคืนที่ 2 แต่ด้วยความที่ว่าคุณโหน่งมาอยู่คนเดียว ภาษาในตอนนั้นก็ยังไม่ได้ดีมาก บวกกับเป็นโรงแรมที่บริษัทจัดไว้ให้ก็เลยยังคงอยู่ต่อ
พอมาวันที่ 3 ทุกอย่างคล้ายๆคืนที่ 2 คือคุณโหน่งปิดไฟนอนปกติตอน 4 ทุ่ม และมาสะดุ้งตื่นตอนตี 3 พอดี และก็เหมือนเดิม มีผู้หญิงอยู่คนนึง เขาเดินออกมาจากทางห้องน้ำ แต่วันนี้เขาถือมีดออกมาเล่มนึง มายืนอยู่ในตำแหน่งที่เขามานั่งเมื่อคืนที่ 2 และเขาก็หันมาหัวเราะนิดนึง ก่อนที่จะเอามีดแทงท้องตัวเอง แล้วเขาก็หัวเราะต่ออีกแปปนึง
ซักพักเขาก็ล้มลงโดยที่หน้าจะอยู่แนวเดียวกับที่คุณโหน่งนอนพอดี ตลอดเวลาที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นก็จะมีเสียงสวดประกอบด้วยอยู่ตลอดเวลา (เสียงสวดจะเป็นเสียงสวดผู้ชาย แต่ที่คุณโหน่งเจอจะเป็นผู้หญิง) และเขาก็จะหัวแราะแทรกกะเสียงสวดอยู่ตลอด นี่คือคืนที่ 3 คุณโหน่งก็เจอเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆกันแบบนี้อยู่ประมาณอาทิตย์นึง
ตอนนี้คุณโหน่งเริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว เริ่มไม่อยากอยู่แล้ว คุณโหน่งก็ไปติดต่อผู้จัดการที่เป็นคนญี่ปุ่นให้หาห้องพักให้ใหม่ เขาก็ถามเหตุผลว่าทำไม คุณโหน่งก็บอกว่า ผมเจออะไรแบบเนี๊ย ผมเลยไม่อยากอยู่ แต่เขาก็เหมือนไม่ค่อยเชื่อ แต่เขาก็ไปหาหอพักให้ แต่ว่าในย่านนั้นเต็มหมดทุกห้องเหลือแค่อพาร์ทเมนท์ที่คุณโหน่งเท่านั้นที่ว่าง คุณโหน่งก็ต้องอยู่ที่อพาร์ทเมนท์แห่งนั้นตลอดระยะเวลา 3 เดือน เจอแบบนี้ทุกคืน ก็คือวันไหนถ้าคุณโหน่งปิดไฟนอน ตื่นมา ตี 3 ไฟจะเปิด แต่ถ้าเปิดไฟนอนตื่นมาตี 3 ไฟจะปิด
คราวนี้พอเป็นช่วงท้ายๆของเดือนที่ 3 มีคนญี่ปุ่นไปที่ไทย คุณโหน่งก็เลขขอให้เขาเอาพระมาให้หน่อย แต่พอได้พระมานั้น ไม่ได้ดีขึ้น แต่กลับเป็นว่าหนักกว่าเดิมอีก ก็คือ คุณโหน่งก็เอาพระ พระที่เป็นเหรียญที่ห้องคอ วางไว้บนหัวนอน คราวนี้เขามาอยู่ข้างๆมุ้งเลยและเขาก็หัวเราะใส่คุณโหน่ง เหมือนเขาไม่ได้กลัว อาจจะเพราะว่าคนละศาสนา คนละความเชื่อกัน แต่คุณโหน่งก็ยังไม่ท้อ ยังหาวิธีแก้อีก คุณโหน่งก็ได้ไปหาสิ่งหนึ่งที่เขาเรียกว่า "โอมาโมริ" (ถ้าใครไม่เคยเห็นหรือไม่รู้จัก รูปจะอยู่ในคอมเม้นที่ 26 นะครับ) ที่เป็นเครื่องลางของญี่ปุ่น คุณโหน่งก็ไปเช่ามา
แต่ว่า มันก็ยิ่งหนักกว่าเดิม โดยที่ว่าเขาถือ โอมาโมริ ของคุณโหน่งมาด้วยเลย แล้วก็หัวเราะเหมือนเดิม ก็เป็นอยู่แบบนี้ประมาณ 3 เดือน จนสุดท้าย ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่จะกลับไทย ห้องที่อยู่ข้างล่างกับคุณโหน่งมาตลอด เขาย้ายออก ก็คือ 2 สัปดาห์ สุดท้ายคุณโหน่งอยู่คนเดียวทั้งอพาร์ทเมนท์ ซึ่ง ณ ตอนนั้นคุณโหน่งก็เริ่มอยากรู้ความจริงละ คุณโหน่งก็มีเพื่อนสนิทที่เป็นคนญี่ปุ่นอยู่บ้าน เขาก็เหมือนจะรู้ แต่เขาไม่ยอมบอก
แต่ช่วงที่พีคที่สุดคือช่วงก่อ่นที่จะกลับไทย 3 วัน วันนั้นคุณโหน่งสูบบุหรี่ แล้วดันไปทำพรหมของเขาเป็นรอยไหม้บุหรี่ ซึ่งเจ้าของเคยสั่งว่าห้ามสูบบุหรี่ในห้อง ห้ามทำพรหมเขาไหม้ คุณโหน่งก็เลยอยากจะซ่อมพรหม อยากจะหาวิธีแก้ไข คุณโหน่งก็เลยไปเลื่อนพรหมดู และแทบจะร้องไห้เลย ก็คือว่า ก็เจอผมผู้หญิงเป็นกำๆ อยู่ที่ใต้พรหมนั้น แต่ไม่แค่นั้น เหมือนจะมีคราบอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่คราบน้ำ ซึ่งอาจจะเป็นคราบเลือด เพราะว่าเปิดออกมาแล้วจะมีกลิ่นอับ คาวๆ
หลังจากนั้น คุณโหน่งก็ไม่นอนแล้วที่นี่ และเก็บของทั้งหมดออกไปอีกที่หนึ่ง ก่อนที่จะกลับไทย คุณโหน่งจะต้องรู้คำตอบให้ได้ ว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ เขา(น่าจะเป็นเพื่อนคุณโหน่ง)ไม่พูดอะไร เขาหยิบหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นให้คุณโหน่งเล่มนึง ในหนังสือพิมพ์นั้นไม่ได้ถ่ายห้อง แต่ถ่ายอยู่โลเคชั่นนึง มันคือที่คุณโหน่งพักเนี่ยแหละ
ซึ่งตอนนั้นเขาก็ไม่เล่าให้คุณโหน่งฟังว่าเกิดอะไรขึ้น พึ่งจะมาเล่าตอนที่คุณโหน่งกลับไทยแล้ว เขาก็เล่าว่า ที่เนี่ย ก่อนที่คุณโหน่งจะไปประมาณ 1 เดือน มีผู้หญิงฆ่าตัวตายที่ห้องที่คุณโหน่งพัก ห้อง 203 ห้องนี้เลย เหมือนกับว่าเขามีปัญหาเรื่องงาน แต่เขาเลือกที่จะใช้มีดฆ่าตัวตาย ส่วนเรื่อง เสียงสวด คุณโหน่งก็ตามหาอยู่ว่ามันคือเสียงอะไร คุณโหน่งก็เล่าว่าก่อนที่จะกลับไทย ก็กะว่าจะไปทำบุญให้เขาซะหน่อย และเสียงสวดที่วัดที่ญี่ปุ่นก็เหมือนเสียงสวดที่อยู่ในห้องนั้น เป็นเสียงสวดเดียวกัน ก็คือบทสวดของญี่ปุ่น "นัมเมียว โฮเรง เงเคียว" เรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น