ประสบการณ์ผีที่การเคหะร้าง แถวบางบ่อ!!
ผมมีประสบการณ์หลอนๆที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ต้องไปเจอโดยบังเอิญ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เป็นการเคหะแถวบางบ่อ เส้นทางบางนา-ตราด เส้นทางเข้าไปรกร้างทืบมาก จากปากทางเข้าการเคหะนั้นทางนั้นยาวมาก ลึกมาก เส้นทางเปลี่ยวมาก เป้นตึกที่ทางการเคหะสร้างเอาไว้ แล้วไม่มีคนเข้าไปอยู่ ปล่อยให้รกร้างเอาไว้ ซึ่งผมเองก็ไม่อยากไปเลยถ้ารู้อย่างนี้ คือวันนั้นจำเป็นต้องไป หาลูกค้าที่นัดกันคือที่การเคหะแถวบางบ่อ ไปเจอกันตอนบ่ายสามซึ่งแสงแดดแรงมาก
ค่ำคืนมาถึง คุยงานจนค่ำมืด ลืมเวลา ดูอีกที่ก้สองทุ่ม ด้วยความรกร้างของสถานที่ด้วยมั้งครับ ที่ก่อนเข้ามาภายในโซนตอนกลางวันที่ผมเข้ามานั้น ตอนบ่ายสามแดดแรงมาก จนมองเห็นอะไรได้ชัดตอนกลางวัน แต่บ่ายวันนั้นผมขนลุก และรู้สึกว่ามีคนเดินตามอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น และเหมือนมีคนมองมาตลอดเวลา ตึกการเคหะที่ว่านั้นสร้างเสร็จแล้วแต่ไม่มีคนเข้าอยู่ มันเลยดูร้างๆไปหมด จนทรุดโทรม บรรยากาศตอนกลางวันกับตอนกลางคืนแตกต่างกันมาก ทั้งการเคหะ มีตึกห้องชุดมากมายเต็มไปหมด บริเวณกว้างมาก แต่คนอยู่ที่นั่นแทบจะนับคนได้ ลูกค้าบอกผมมาว่า ที่ตรงนี้เคยเป้นป่ารกทึบมาก่อน ทางเข้าลึกมาก ไม่ค่อยน่าอยู่
ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้ผมเดินไปดูห้องของลูกค้าที่เค้าซื้อไว้ เพราะผมปากไวว่าอยากไปดุเลยไปดูห้องลูกค้าตอนกลางคืนวันนั้น ห้องอยู่ตึก 22 ชั้น 3 ผมจำเบอร์ห้องไม่ได้ เพราะตอนนั้นใช้ ไฟฉายไอโฟนนำทางไปดูห้อง ระหว่างเดินขึ้นไปดุห้องต้องเดินขึ้นผ่านชั้น 1 ชั้น 2 ผมรู้สึกได้ยินเสียงคนเดินเท้าเปล่าตามหลังผมมา ตอนหัวค่ำแบบนี้ผมไม่รู้ทำไมถึงอยากไปดูห้องตอนนั้นไม่รู้ เพราะตึกของลูกค้าที่ซื้อไว้นั้น คนอยู่ทั้งตึกไม่เกิน 4 ห้อง ทั้งที่ตึกนั้นมีห้องพักประมาณ 50 ห้องเป็นอย่างน้อย แต่ทั้งตึกมีคนอยู่แค่สี่ห้องรวมกับห้องของลูกค้าด้วย ไฟทางก็มีบ้างไม่มีบ้าง แต่พอถึงชั้นสาม……..ไม่มีไฟทางเลยมืดสนิท ซึ่งมีห้องของลูกค้าผมแค่ห้องเดียวบนชั้นนั้น มองไม่เห้นอะไรเลย ห้องที่เราจะไปอยู่กลางตึกพอดี
ถึงหน้าห้องผมเริ่มกลัวทั้งที่เจ้าของห้องเองก็บอกว่าไม่ต้องกลัวหรอก…….แต่ผมตรงกันข้ามเลย กลัวมากขึ้น เข้าไปในห้องซักพักก็เปิดไฟ ไฟไม่ติดเพราะเจ้าของห้องลืมจ่ายค่าไฟ เลยจุดเทียนแทน เพื่อให้ห้องสว่างขึ้น จุดเทียนสามเล่มเป็นสามเหลี่ยมของห้อง กระจายความสว่างให้ทั่วกัน ซักพักผมก็นั่งบนโซฟาพักเหนื่อยเอนหลังได้ไม่เกิน สิบวิ ผมได้กลิ่นธูปเต็มๆ กลิ่นแรงมาก ผมตะโกนเรียกเจ้าของห้องว่าได้กลิ่นธูปมั้ย…….ไม่มีเสียงตอบกลับมาเลย……ซักพักผมทนไม่ไหวเพราะกลัวเหลือเกิน ผมรีบพุ่งเข้าไปหาเจ้าของห้องที่เข้าไปอยู่ในห้องนอน ซึ่งผมนั่งอยู่ห้องรับแขก พุ่งเข้าไปดูก็พบว่า เจ้าของห้องจุดธูป….จุดทำไมวะกูกลัว คำตอบที่ได้คือเค้าจุดธูปไหว้แม่กับเมียเค้าที่เสียชีวิตไปได้สองปี ซักแปปเค้าก็เล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกเลยว่า
เค้าซื้อห้องนี้ให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันก็เก็บเงินซื้อห้องชุดที่นี่เมื่อสองปีก่อน พอย้ายเข้ามาอยู่ได้สองอาทิตย์ เมียกลัวเข้าห้องที่นั่นเพื่อพัก แต่ทางที่นั่นเปลี่ยวเมียเค้าเลยโดนปล้นจี้และทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เค้าก็เสียใจมากๆ จนมาถึงที่แม่ของเค้าก็มาเสียชีวิตด้วยโรคชราที่ห้องนี้ด้วย ก็จัดงานศพเสร็จเรียบร้อย แล้วลูกค้าผมก็เอากระดูกของเมียและแม่ไว้ที่ห้องนี้ จากวันนั้นมาวันนี้ลูกค้าผมคนนี้ก็ย้ายออกมาที่บ้านหลังเดิม เค้าเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่เค้าย้ายออกไปก็ไม่มีใครอยู่ห้องชุดนี้เลย เพราะไม่มีเวลามา ผมเองก็นั่งฟังไปแบบจดจ่อ ตาผมเหลือบไปเห็นรูปเมียกับแม่ของเค้าเต็มๆก็ไหว้ทั้งสองที่หิ้ง เค้าเล่าต่อว่าก่อนหน้าที่จะซื้อห้องชุดนี้ มีคนอยู่เยอะพอสมควรเลย มาตอนนี้คนพักหายไปหมดโดยเฉพาะชั้นนี้ที่มีห้องของเค้าเหลือเพียงห้องเดียว แต่เค้าก็ไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้เพราะไม่ได้มาที่นี่นาน ซักพักใหญ่ๆ มีเสียงฝีเท้าเดินเข้มาทางห้องที่ผมอยู่………เป้นยามของนิติตึกนี้ ถามว่าเป็นยังไงบ้าง มีอะไรให้ช่วยมั้ย ผมเองก็ถามเล่นๆไปว่า”พี่ครับทำไมที่นี่ เฉพาะชั้น 3 ถึงไม่มีคนอยู่เลยล่ะครับ………
ต่อไปนี้เป้นคำตอบที่ผมตะลึงกับคตอบที่ได้ ก่อนตอบพี่ยามได้บอกว่าให้ออกมาจากห้องก่อนแล้วจะเล่าให้ฟัง
ยามพาผมกับลูกค้าเดินมาที่ระเบียงนอกสุด ตามแสงไฟฉายของพี่ยาม แล้วเค้าก็บอกว่า……”ผมเองพึ่งมาอยู่ ตอนแรกก็มีคนอยู่นะครับชั้นนี้ แต่ตอนนี้ทยอยย้ายออกไปกันจนหมด จนเหลือห้องของลูกค้าพี่แหละครับ”……ผมสะดุ้งทันที…แล้วถามว่าทำไมหล่ะครับ….ยามบอก”ตอนนี้ห้องร้างไปหมดแต่มีเจ้าของนะครับ งั้นพี่มาดูนี่ครับ”
ตั้งแต่ห้องแรกของชั้นสามจนห้องสุดท้ายของชั้นนี้ ทุกห้องไม่ได้ล๊อค!!!! ยามก็เปิดแง้มประตูให้ดูทุกห้องบนชั้นนั้นทั้งชั้น ทุกห้องมีแต่รูปคนตายบนห้ิงทุกห้อง พร้อมกับโหลกระดูกวางหน้ารูปมีทุกห้องรวมกับห้องที่ลูกค้าผมด้วย ซึ่งหมายความว่าที่นี่คือสุสานย่อมๆ มีรูปหน้าศพและกระดูกวางอยู่ทุกห้องบนชั้นนั้น รกร้างไปหมด เท่านั้นแหละ!!! ผมรีบวิ่งลงแล้วลากลับเลย ระหว่างเดินลง มาที่ชั้นสอง ผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาที่ผมยืนตรงหน้าบันไดเหมือนไม่ให้ผมลงเป็นลมวูบเย็นตรงหลังคอชั้นสองมีรูปโปสเตอร์รูปคนต่างๆติดประกาศเต็มไปหมดเมื่อส่องไฟก็เห็นป้ายเขียนด้วยกล่องกระดาษเขียนด้วยปากกาสีแดงว่า “ห้ามขึ้นชั้นสาม ผีดุ” เทา่นั้นแหละตีนรีบวิ่งลงไม่รอยามกับลูกค้าเลย ชิบหายแล้วน่ากลัวมาก มือสั่นไปหมด สรุปคนที่นี่ตายทั้งชั้นเลยหรือเนี่ยไม่น่าเชื่อเป้นที่เก็บกระดูกของคนตายไปซะแล้วอะไรเนี่ย ++++ พูดแล้วยังกลัวไม่หาย และต่อไปนี้ไม่คิดที่จะไปสถานที่แบบนี้อีกแล้ว จำจนวันตาย ไม่อยากไปที่รกร้างว่างเปล่าน่ากลัวแบบนี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น