สวัสดีจ้ะ...มีโอกาสได้ทำงานเสริมเป็นเซลล์บัตรเครดิตของธนาคารแห่งนึง อยากมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆที่ชอบ หรือไม่ชอบอาชีพนี้ก็ตามได้ฟัง เซลล์ของบัตรเครดิต มี 2 สาย หลักๆ
1.เทเลเซล พนักงานส่วนนี้ จะโทรขาย/นำเสนอบัตรเครดิต ให้กับลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มทางแบงค์ต้องการครับ เช่น กลุ่มเงินเดือน 25000 ขึ้นไป (ต่ำกว่านี้ค่าคอมน้อยมาก) กลุ่ม หมอ อาจารย์ ข้าราชการ เป็นต้นครับ เทเลเซลล์มีทั้งพนักงานฝ่ายขายของแบงค์จริงๆ และบริษัทเอ้าท์ซอส ที่จ้างคนอีกทอดนึง
โดยรายชื่อลูกค้านั้นจะมีการจัดหามาให้พนักงานครับ ส่วนมาจากที่ไหนนั้น หลักๆคือ ข้อมูลออนไลน์ครับ
บางหน่วยงานมีการอัพโหลดข้อมูลรายชื่อการประชุมพร้อมข้อมูลติดต่อ ....ก็โดนดาวน์โหลดมาโทรแน่นอน ไปจนกระทั่ง ซื้อขายรายชื่อ เทเลเซลล์จะได้รับการอบรมหรือเทรนจากทางแบงค์ถึงวิธีการนำเสนอหรือขายของกับลูกค้าครับ ส่วนเรื่องวาทะศิลป์ หรือสกิลส่วนตัวนั้น แล้วแต่บุคลิคของเซลล์ บัตรเครดิตดียังไงแบบไหนก็มีสกิลในการคุยครับ ใช้หลักจิตวิทยาโน้มน้าวใจลูกค้า
เทเลเซลล์รับเงินเดือนอย่างไร?
ถ้าเป็นพนง. แบงค์ ไม่มีฐานเงินเดือนครับ จะมีเพียงค่าใช้จ่ายส่วนน้อยให้ หาคอมมิชชั่นล้วนๆครับ
เอ้าท์ซอส โดยมาก มีฐานเงินเดือนครับ มากน้อยแล้วแต่ผลประกอบการ และคอมมิชชั่นจะมีการกำหนดเทียของแต่ละคน
ค่าคอมมิชชั่นเยอะไหม ตอบเลยว่าเยอะมากครับ หากทำได้ แต่โดยมากจะท้อซะก่อน เงินเดือนไม่มีตันครับ ทำมาก ก็รับมาก ขี้เกียจก็รับน้อยและถอดใจไปเอง อุปสรรคการทำงาน เยอะพอสมควรครับ
หลักการทำงานคร่าวๆครับ
โทรหาลูกค้า - นำเสนอผลิตภัณฑ์ - ตกลงเรื่องเอกสารที่ลูกค้าต้องเตรียม/นัดแนะเวลา - ส่งพนง.แมสเซนเจอร์ไปรับ
ได้เอกสารกลับมาแล้ว เขียนตัวสัญญา(ลูกค้าเซ็นมาแล้ว) คำนวณรายได้ลูกค้า ตรวจความถูกต้องเอกสาร ส่งให้หัวหน้าตรวจ
เมื่อหัวหน้าตรวจผ่านจะส่งเข้าระบบตรวจสอบของทางแบงค์ - รอผลอนุมัติ
ข้อเสียของเทเลเซล์
จิตใจต้องหนักแน่นในระดับนึง พร้อมโดนลูกค้าต่อว่า
พัฒนาตัวเองช้า = รอเวลาลาออก เพราะยอดต้องเดินตลอดเวลา ไม่รอคุณเก่ง
เอกสารมักได้ไม่ครบ ต้องตามให้ส่งให้ ซึ่งคนระดับเงินเดือน 30000+ ไม่ค่อยมีเวลาว่างนัก (ผมว่าอันนี้ยากที่สุดล่ะ)
แมสเซนเจอร์ดีก็ดีไป เจอคนผิดเวลาหรือหน้าโหดๆ ลูกค้ายกเลิกซะงั้น
แสกนลูกค้ายาก เกษียร / ภาระหนี้สูง หรืออื่นๆ ลูกค้าบางคนบอกตรงๆ บางคนตอบด้วยอีโก้ให้ดูดี
สังคมการทำงาน มากคนก็มากความตามท้องเรื่อง แต่เรื่องชู้สาวชู้ชายนี่บางคนอาจชอบ?
อนุมัติยากเหลือเกิน กว่าจะเข้าระบบ พลาดก็กว่าจะตีกลับมา แก้งานกว่าจะส่งไป
คุณต้องแม่นเรื่องเอกสารพอสมควร
สุดท้าย....แรงกดดันที่ร้ายที่สุดคือวันที่ 15 เห็นเงินเดือน มันบอกคุณทุกอย่าง ไม่ต้องให้หัวหน้ามาว่าเลย
2.ไดเร็ก เซลล์
มีความแตกต่างกับเทเลคือ ไม่ได้นั่งโทร แต่ออกไปน็อคหรือปิดการขายต่อหน้าลูกค้าเลย ด้วยวิธีๆต่างๆนาๆ กลุ่มนี้โดยมากจะไม่มีฐานเงินเดือน ทำงานอิสระ เข้าออฟฟิศแค่ตอนส่งงานหรือเคลียงาน (บางแห่งมีเงินเดือน เช่นฝ่ายขายธนาคารโดยตรง)
วิธีล่าลูกค้าของไดเร็ก เซลล์
ตั้งบูธ เหนื่อยแน่นอน แถมใครเข้ามาก็ต้องเอาหมด ทำใจเรื่องลงทุนซื้อของแจกได้เลย ขยันผิดที่ก็เหนื่อยฟรี
ติดต่อเข้าไปตามหน่วยงาน มีหนังสือชัดเจน อันนี้เวิร์คที่สุดครับ
ลูกค้าเห็นหน้าค่าตา ถ้าบุคลิกดี มีสกิลการคุย ผ่านฉลุย
โทรเหมือนเทเลเซลล์ แต่หาแค่คนรึสองคน จากนั้นนัดลูกค้าพบ ปิดการขายด้วยตัวเอง แถมยังต่อยอดได้ด้วยถ้าลูกค้าหลงรัก
ข้อเสียของไดเร็กเซลล์
เหนื่อยกับการลงทุน เติมน้ำมัน ของแจก ค่ากินค่าเดินทาง วางแผนไม่ดี ทั้งท้อและจน มาแน่นอน
กดดันสิ ออกแต่ละครั้งตั้งเป้าไว้ ถ้า 0 นี่ตายสถานเดียว
เจอลูกค้าดีก็ดีไป เจอคนยากๆ ก็ลำบากนะ....
สุดท้าย....เหนื่อย แต่ถ้าคนรักการออกข้างนอก อิสระ ชอบคุยกับผู้ใหญ่ มันจะกลายเป็นสนุก
ตำแหน่งงานในสายงานนี้
เซลล์ - พนักงานขายทั่วไป แบ่งเป็นสองสายหลักๆตามข้างบน (มีสิทธบรรจุเป็นพนง.แบงค์ด้วยนะถ้าทำงานดี)
กรุ๊ปลีดเดอร์ - หัวหน้าทีมเซลล์
ผู้จัดการ - ชื่อก็บอกไว้แล้ว
ผู้อำนวยการ - ตามนั้นเลย
ผู้บริหารสายงาน - ก็ใหญ่แล้วล่ะ
จบสุดท้ายด้วยความเห็นส่วนตัว...
เป็นงานอิสระที่ดีงานนึงเลย (ถ้าไม่นับเรื่องเทาๆบางเรื่อง เช่น รบกวนชาวบ้านเขา บางเรื่องไม่ได้โกหกนะ แค่บอกไม่หมด... ) แนะนำให้ลองครับ ได้ประสบการณ์เยอะมาก แต่แน่นอนหากคุณไม่รักในงานบริการ พูดคุยพบปะ ขี้เกียจ ไม่มีความกะตือรือร้น เดี๋ยวก็ลาออกด้วยตัวเอง เงินดีนะ เงินเยอะมาก แต่ทำได้ไหมแค่นั้นเอง เป็นอีกงานที่ต้องอาศัย ความขยันระดับ 10 บอกเลยว่า ถึงจะนั่งออฟฟิศรึอะไรยังไงก็ตาม งานนี้ไม่เหมาะกับคนขี้เกียจ คิดมาก บริหารอารมณ์ตัวเองไม่ดี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น