จับได้ว่าแฟนไปอ่าง อบ นวด ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

อยากได้คำแนะนำ แล้วก็ความเห็นจากหลายๆคนค่ะ เราคบมาแฟนมา 2 ปี จริงๆ เค้าค่อนข้างดีกับเรามากก จะมีแค่นิสัยส่วนตัวของเค้าบางอย่างที่เราไม่ชอบมากกจริงๆ เรื่องมาเกิดตรงนี้ พอดีเราเพิ่งจับได้ว่าเค้าไปเที่ยวอ่าง 1 ครั้ง (ที่รุ้) 🙄 เป็นช่วงที่เราไม่อยู่ไทย แล้วก็ทะเลาะจนเลิกกัน ไม่กี่วัน อันนี้เป็นเหตุผลที่เค้าบอกว่า ตอนนั้นเค้าเครียดมากเค้าเลยไป (เอิ่ม) ซึ่งก่อนคบกับเราตอนไม่มีแฟนเค้าก็ไปอยู่ 3 ครั้ง ( ที่รู้ )  แล้วเราเป็นคนที่เกลียดเรื่องอะไรแบบนี้มากกกก ความคิดมันตีกันไปหมด  ทั้งกลัวโรค ( แต่ก็โง่ไม่รู้มาตั้ง6เดือน) ทั้งเพื่อนๆพี่เค้าที่เราเจอบ่อยๆก็รับรู้เรื่องนี้เพราะไปด้วยกัน ทั้งเพราะเรารู้สึกว่าเราเต็มที่ในระดับนึงกับเรื่องนี้ แล้วเราไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมทุกอย่างอะไรขนาดนั้น 

ข้ามรายละเอียดยิบย่อยไป สุดท้ายเราใจอ่อน กลับมาคบกันได้ไม่กี่วัน เพราะเค้ายังคงดีกับเรามาก เวลาอยู่ด้วยกันก็มีความสุข แต่พอห่าง หรือมีเวลาให้เราคิดเท่านั้นแหละ เรารับไม่ได้จริงๆ ตอนนี้เหมือนเราจะเป็นโรคประสาท นั่งหา ทุกอย่างที่เกี่ยวกับอ่างอบนวด - - เพื่อนก็เตือนว่าให้หยุด ตอนนี้ก็หยุดแล้ว แถมภาพตอนแฟนไปทำอะไรแบบนั้นคือลอยมาอยู่ตลอด เราว่าเราไม่ไหวอะ ความรู้สึกแย่มาก พออยู่คนเดียวแล้วไม่มีความสุขเลย ดี๋ยวมันก็ผ่านไป เดินหน้า หรือหยุด ส่วนตัวเราไม่คิดว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ เคยบอกตัวเองว่า ถ้ามีแฟนไปอะไรแบบนี้ ไม่มีก็ได้ ใครพอมีประสบการ์ณแบบนี้บ้างคะ อยากขอคำแนะนำ... ถามหลายๆความเห็น ว่าควรมองในมุมไหน คิดยังไง 

มาดูคอมเม้นต์ของแต่ละคนกันบ้าง

>แฟนไปอาบอบนวด ก็คือไปเยกับผู้หญิงอื่นอ่ะค่ะ เยแล้วเสียเงินด้วย ดังนั้นเราไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น 
เราบอกสามีเราเสมอค่ะ ว่าเราไม่ได้ต้องการเป็นที่หนึ่ง เราต้องการเป็นแค่คนเดียว รองจากแม่และน้องสาว เราไม่ยอมเป็นลำดับก่อนหรือหลังใคร เพราะฉะนั้น สำหรับเราเราเลือกจากออกมาค่ะ

>เคยบอกตัวเองว่า ถ้ามีแฟนไปอะไรแบบนี้ ไม่มีก็ได้
ทำได้ไหมละคะ 

เค้ารู้ว่าสิ่งที่เค้าทำไม่ถูก 
เค้ารู้ว่าสิ่งที่เค้าทำจะทำให้คำว่า เรา เกิดปัญหา
เค้ารู้ว่าสิ่งที่เค้าทำ ทำให้คุณร้องไห้ 

แต่ยังเลือกจะทำ สำควรแก่การรักษาคนแบบนี้ไว้อยู่หรอ 
ดีส่วนดีค่ะ สิ่งที่เค้าทำไม่ดีก็ส่วนไม่ดี 
เรารู้เเค่ว่า ถ้าสิ่งที่เราทำ ทำคนข้างๆเราเสียใจ จนถึงขั้นต้องเลิกลาและเมื่อเราได้รับโอกาส  เราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำอีก
ถ้ายังทำซ้ำๆซากๆ เค้าคงไม่ได้แคร์อะไรเรา และคงไม่มีเหตุผลอะไร ที่เราจะต้องมานั่งแคร์เค้ามั้ง รักษาความรู้สึกกันยังทำไม่ได้
คงไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะรักษา คนเเบบนี้ไว้ข้างๆ ( คหสต)

>เชียร์ให้เลิกนะคะ ผู้หญิงเราเวลาไม่ได้มีเยอะแยะเหมือนผู้ชาย (สามสิบก็แก่แล้ว จริงไหม..)
ไม่รู้ว่า จขกท. อายุเท่าไหร่นะคะ แต่พอถึงจุดๆนึงที่เราโตแล้ว เราจะไม่มานั่งเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่และไม่คู่ควรค่ะ

>เอาจริงๆนะ ผมว่า 50% ของผู้ชายไทย มันก็เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้แทบทั้งนั้น ปล่อยผ่านไปบ้างก็ได้ ถ้ากลัวติดโรค จับได้ก็ให้เข้าไปตรวจสิ มีใบแพทย์มายืนยันเลยถ้าซีเรียสนะ ไม่ได้เข้าข้างนะ แค่อยากให้ปล่อยวางบ้าง จะได้ไม่ทุกข์ คุณไปเจอคนใหม่ คุณจะรู้ได้ไงว่าเขาเที่ยวหรือไม่เที่ยว

สถานบริการบางทีผู้หญิงสะอาดกว่าข้างนอกนะคะ เพราะยังไงเค้าต้องให้ตรวจเลือดตลอด และให้แขกใช้ถุง  ดีกว่าพวกลักกินขโมยกินพวกนั้นไม่มีตรวจโรคและบางทีก็สด เสี่ยงโรค เสี่ยงท้อง เราไม่เข้าใจเวลาเกิดปัญหาพวกนี้ คนชอบบอกให้ผู้หญิงอดทนเป็นเรื่องธรรมดา  เดี๋ยวก็ดีเอง  ทำไมไม่มีใครบอกให้ผู้ชายทนกับกิเลส ตัญหา ราคะ บ้าง?

>เคยค่ะ สุดท้ายก็ต้องเลิกเพราะความเชื่อใจมันไม่มีอีกแล้ว
จิตตกอยู่คนเดียว คิดมากอยู่คนเดียว กระวนกระวายอยู่คนเดียว
ไม่รู้ว่าแฟนจขกท.ติดอ่างด้วยหรือเปล่า ถ้าติดนี่ ต่อให้แต่งงานกันไปเขาก็ไม่เลิกค่ะ

อยากแนะนำให้เลิกกันดีที่สุด แล้วจะรู้ว่าความสุขมันมีจริง

>เราว่าเรื่องนี้แล้วแต่คนค่ะ หมายถึงว่า มันก็จะมีผู้หญิงบางคนที่บอกว่าเป็นแค่ครั้งคราว ปล่อยแฟนไปเปลี่ยนกลิ่นบ้าง หรือว่าช่วงที่เราไม่อยู่แค่นั้น ไม่ได้มีเป็นตัวเป็นตน บางคนอาจจะรับได้ ส่วนตัวเรารับไม่ได้ ถ้าเจอแบบนี้เราคงเลิก โชคดีที่ได้แฟนขี้กลัว คือแฟนเรากลัวติดโรค กลัวมีปัญหา แถมขี้เหนียวเล็กๆ เลยไม่ยอมจ่ายเงินไปกับเรื่องพวกนี้ (แต่ก็มีปัญหาเรื่องอื่นอยู่เหมือนกัน) เราเคยมีเพื่อนผู้ชายที่สนิท ก็เที่ยวอ่างค่ะ เที่ยวแบบเป็นเรื่องปกติ แต่พอมีแฟน ก็เลิกเลยค่ะ คือเที่ยวเพราะปลดปล่อย เพราะไม่มีแฟนแค่นั้น

เท่าที่อ่าน คุณจขกท.รับไม่ได้กับเรื่องนี้มากๆ ความรู้สึกก็จะวนอยู่ในใจแบบนี้แหละค่ะ ถ้าอยากเลิกทุกข์กับเรื่องนี้ก็เลิก แต่ถ้าแฟนมีข้อดีอื่นๆที่พอชดเชยกันได้ แล้วสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก และพิสูจน์แล้วว่าไม่ทำจริงๆ ก็ลองให้โอกาสทั้งเค้าและตัวเองดูค่ะ

>เขาไปตอนคุณเลิกก็ไม่ได้ผิดอไรเรื่องนอกใจนะครับ เพราะงั้นตัดทิ้งเรื่องความไม่ซื่อสัตย์

แต่ถ้าคุณซีเรียสเรื่อง
1. โรค พาไปตรวจโรคซะ
2. เคยผ่านมือหญิงอื่น ถ้ารับไม่ได้ก็เลิกครับ

สั้นๆ ง่ายๆ เรื่องนี้ไม่รู้สึกว่า ผช อะไรด้วย
เพราะเขาไปตอนเลิกแล้ว

>ถ้ารับไม่ได้ก็เลิกครับ  เพราะถ้าไม่รีบเลิกอนาคตดค้าจะเป็นคนขอเลิกกะคุณแทนน่ะครับ  แต่เรื่องโรคนี่ถ้าอ่างจริงน่าจะไม่แต่ถ้าเป็นร้านข้างทางว่าไปอีกอย่าง  เพราะเค้าต้องป้องกันตัวเองเพราะเค้าใช้ร่างกายทำงานครับ เป็นโรคคือต้องเลิกทำ อีกอย่างไปที่แบบนั้นใช้ตังแลก  ไม่ต้องกลัวเรื่องมีความผูกพันธฺหรือมือที่สาม  เลิกเหอะครับดีแล้ว  แฟนคุณคงมีความใคร้มากไม่ไปเที่ยวอ่าง ก็ต้องแอบไปมีเด็ก  เพื่อระบายความใคร้ที่คุณมีให้ไม่พอ

>เป็นคำถามที่หาคำตอบอยู่เหมือนกัน อันนี้เป็นข้อสรุปของตัวเองนะคะ คือขอให้สามีระมัดระวังตัวเองหากต้องการไปสถานที่แบบนั้นจริงๆ ไม่ต้องมาบอกฉันว่าจะไปขอไม่รู้ไม่สืบไม่ค้นอย่าให้เราสงสัยไปให้เนียนที่สุด ชั่วคราวคือจบอย่าผูกพัน แต่ถ้าไม่ไปได้จะดีที่สุด ครอบครัวเราสำคัญกว่าลูกที่น่ารักของเราต่อให้เขาเข้าใจแต่เขาอยากให้เราอยู่รวมกันมากกว่า ถ้ารู้แล้วทุกข์ขอไม่รู้ดีกว่าค่ะ ถามว่าถ้าจะจับผู้หญิงเก่งกว่านักสืบอีกค่ะ แค่กลิ่นเปลี่ยนเมียก้อรู้แล้ว แฟนเราก้อขี้กลัวค่ะพูดแบบเดียวกับ ความเห็นที่ 9 เลยค่ะแต่เรารู้ว่าเขาเคยไป โกรธ เสียใจ เหมือนกัน เลยขอคุยเคลียร์ๆกันไป ถ้าเราต้องรับรู้อีกครั้งเราขอไม่ทนค่ะ หลายคนอาจคิดว่าเราโง่ แต่เราคิดว่าบางเรื่องโง่แล้วมีความสุขกว่าเท่านั้นเอง
มองมุมมองไหน มองเเบบที่คุณอยากรักษาเค้าไว้ คุณขาดเค้าไม่ได้ ต้องตายเเน่ๆ ก็คิดซะว่ามันเป็นปกติของ ผช ค่ะ หลายๆคู่มีปัญหากันเรื่องนี้ การนอกใจ นอกกาย

มองเเบบ รักตัวเองมากๆ คุณหาได้ดีกว่าดี มองเเบบนี้ชั้นเอาใครมาทำแฟนเนี่ย ก็เดินออกมาค่ะ แล้วอย่ากับไปมองแบบ มุมมองเเรกอีกครั้ง และอีกครั้ง 

ปล อย่ามัวได้ให้โอกาสคนอื่น (ซึ่งไม่ได้เห็นค่าอะไรมันเลย)
จนลืมให้โอกาสตัวเองนะคะ (อินไปหน่อย) เราไม่ชอบคนที่ทำอะไรผิดซ้ำๆซากๆ

>ถ้าทุกวันนี้ต้องมานั่งเครียด คิดระแวงจนไม่มีความสุขขนาดนี้........
เราควรมีความสุขเวลาที่ได้คบใครดีๆซักคน แต่ถ้าเราต้องมานั่งจมทุกข์นี่ขอบายดีกว่าค่ะ

>เอาจริงๆนะครับ ส่วนตัวผมไม่ชอบเที่ยวผู้หญิง (เงินทองหายาก)
แต่อย่าฟังคนในห้องนี้ที่แนะนำให้เลิกนะครับ อยากให้คิดและตัดสินใจเอง แต่ถ้าเลือกที่จะให้อภัยคุณต้องหยุดคิดถึงและหมกมุ่นกับเรื่องนี้ เพราะมันจะทำให้คุณเป็นโรคประสาทไปซะก่อนครับ

ส่วนคุณผู้หญิงหลายๆท่านที่มาแนะนำให้เลิกเพราะรับไม่ได้นะครับ บอกได้เลยครับว่าดีไม่ดีสามีคุณก็เป็นหนึ่งในคนที่ไปครับ แค่คุณยังไม่รู้ 

ยกตัวอย่างครับ office ผมนะครับเอาผู้ชายที่อยู่รอบตัวผมที่รู้จักสนิทกันนะครับ ประมาณ 30 คน(ผมอยู่ที่นี่มานาน)มีชวนกันไปตลอดครับ แต่มีแค่ 3 คนเท่านั่นที่ไม่เอาด้วย นอกนั้นเอาหมดครับ ไปอาบอบนวดอย่าคิดว่าต้องไปหลังเลิกงานครับ เขาใช้วิธีชวนกันลงพักร้อนแล้วมาทำงานกันถึงบ่ายครับ บ่าย3 ลุย เสร็จกิจกลับบ้าน 

ถามหน่อยเถอะครับ รู้จักสามีตัวเองดีแค่ไหนเชียวถึงกล้ามายุคนอื่นเขา หึหึหึ

>พวกรู้ว่าแฟน/สามีไปเที่ยวแล้วรับไม่ได้ขอเลิก

ถ้าผู้หญิงเป็นอย่างนี้ทุกคนสงสัยต้องอยู่คนเดียวจนแก่ตายแล้วครับ

ไม่ได้โลกสวยนะครับ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นผู้ชายที่มีอะไรกับผู้หญิงคนเดียวจนตายครับ

ตั้งแต่สมัยเรียนผ่าน ญ กันมากี่คนมีแฟนกี่คน ไปเที่ยวกันกี่ที่ เป็นหมดครับ  

ถ้าคุณเลิกกับเค้าไปเพราะเหตุผลแค่นี้ก็โง่มากๆแล้ว เสียสามีให้กับผู้หญิงขายตัว

>เห็นด้วยกับ คห. 15 ค่ะ
จขกท. ควรคิดและตัดสินใจเอง เพราะคนที่มาตัดสินใจให้ทางโซเชี่ยลเขาไม่มีผลอะไรกับชีวิต จขกท.
เขาเม้นท์เสร็จ ปิดเพจไปเขาก็ลืม จขกท. แล้ว
ไม่คุ้มหรอกค่ะ
หลายกระทู้ บางเคสมันเรื่องเล็กๆ ยังมีคนยุให้เลิกเลย

พูดความจริงนะคะ ผู้ ช ที่เคยเข้าอาบ อบ นวด มีเยอะพอๆกับคนที่ไม่เคยเข้าค่ะ 
และคนที่ไม่เคยเข้า ก็มีคนที่ "อยากเข้า" "คิดที่จะเข้าแต่ไม่กล้า" อยู่
ผู้ ช น้อยคนมากๆที่จะไม่คิดเรื่องเพศเลย
ผู้ ญ หลายคนอาจถามว่า "แล้วทำไมต้องทำให้มันเป็นที่ยอมรับเป็นปกติได้"
ก็เพราะมันคือความจริงค่ะ ไม่ใช่เทพนิยาย ไม่มีใคร Perfect 
ดังนั้นการจะมีแฟน "ก่อนตกลงคบกัน" ต้องถามให้หมด อย่ากลัวค่ะ
ดีกว่ามาเป็นแฟนกันแล้วคาดหวังให้เขาเป็นแบบนี้ๆ เพราะเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น
คนไม่มีทางเปลี่ยนง่ายๆ ใครก็เปลี่ยนใครไม่ได้

ในความคิดของ ผช. ที่ไปเขาจะคิดแค่ "ไปใช้บริการเฉยๆ" ไม่ได้ไปมีกิ๊ก มีชู้สักหน่อย เขาก็จะมองว่ามันไม่ผิดอะไร
แต่ ผญ ไม่ใด้คิดแบบนั้น เพราะทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ดีพอและถูกหักหลัง

เพื่อน ผช. เราเขาก็ไปค่ะ แต่เขาก็รักแฟนเขาดี แถมบอกแฟนด้วยเอาสิ
ส่วนแฟนเราอยากไปค่ะ ปกติของ ผช. เราก็บอกแฟนแค่ว่า
"เข้าใจว่ามันเป็นปกติของ ผช. แต่มีเงินเหรอ (เรื่องใหญ่ค่ะ!) 
ที่สำคัญกลับมาจะยังรับความรู้สึกที่เรามีให้เขาได้ไหม ว่าเราจะรู้สึก "ผิดกลิ่นเขาไปเอง" คือรู้สึกไม่อยากหอม ไม่อยากอยู่ด้วย เพราะไปนอนกับคนอื่นมา" 
คือ ปกติธรรมชาติถ้ามีเพศสัมพันธ์มันต้องมีสารคัดหลั่งมีอะไรเน๊อะ เราก็กลัวโรคติดต่อที่เราไม่ได้ก่อจะมาติดเราไง
คือเราอ่ะรับได้เพราะ "เข้าใจทุกอย่างล่ะว่าโลกนี้มันจะเป็นยังไง" แต่เขาจะรับความรู้สึกของเราที่มีให้เขาได้ไหมแค่นั้น
สรุปแฟนเราก็เงียบ และไม่ไป.....ไม่ใช่อะไร เพราะไม่มีเงินค่ะ
ถ้ามีโอกาสเขาคงจะไป แต่ก่อนหน้านั้นต้องพาเราไปกินบุฟเฟ่ต์ ไปเที่ยวก่อนค่ะ ส่วนมากก็จะไม่ได้ไป ออน. ต่อหรอกเพราะงบหมดไปกับบุฟเฟ่ต์เราหมดละ จขกท. ลองใช้วิธีนี้ดูสิคะ

"มีความรัก ไม่มีทางที่จะไม่เจ็บปวด
มันต้องมีสักเรื่องหนึ่งค่ะ
ต่อให้รักกันมาก ดีมากก็จะเจ็บปวดเมื่อมีเหตุ"

>ก็ต้องคุยกันให้เคลียร์ว่า ตกลงเธออยากใช้ชีวิตแบบไหน

1. มีครอบครัว มีความรักจริงๆ แต่หยุดเรื่องพวกนั้น ทำได้ไหม? ถ้าได้ => เดินหน้าคบต่อ เรื่องที่ผ่านมาคือให้เป็นอดีต 
2. ถ้ารับไม่ได้หรือคิดว่าไม่สามารถทนความอยากเอาได้ ก็ไม่ต้องมีครอบครัว

แต่ถ้ามันแย่ ผมแนะนำให้คุณไปพบแพทย์เยียวยาจิตใจ ถ้าเดินหน้าต่อ ให้แฟนไปด้วย ไปรับรู้อาการของเรา
หรือถ้าไม่เดินหน้าต่อ คุณก็ต้องเยียวยาจิตใจอยู่ดี แต่เปลี่ยนเป็นให้เพื่อนหรือคนสนิทไปด้วย ถ้าไหวก็ไปเอง
ผมคิดว่าความรู้สึกแบบนี้ ถ้ามัวไปจมกับมัน เราจะเครียดเอง และมันส่งผลต่อร่างกายและจิตใจคุณมาก มันแย่ที่สุด คุณต้องก้าวผ่านให้ได้

และผู้ชายแบบแฟนคุณต้องเข้าใจ 2 อย่างนี้ ไม่ใช่ว่าจะทำทั้ง 2 อย่างคือ จะมีเมียเป็นผู้หญิงดีๆ แต่ยังไปหาที่ระบายความใคร่กับคุณตัว 
ถ้าอย่างนั้นต้องหาแฟนเป็นผู้หญิงขายตัวน่าจะเวิร์คกว่า หรือไม่ต้องมีเมีย โอเคนะครับ เป็นกำลังใจให้

ปล. ทำไมแท็กห้องศัลยกรรมความงาม อันนี้งง

>ผู้ชายที่ออกมาบอกว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย ถ้าเมียคุณออกไปซื้อผู้ชายกินบ้าง ไม่มีสามัญสำนึกผิดชอบชั่วดี อยากเปลี่ยนกลิ่นกับผู้ชายอื่นบ้าง ไม่มีความยับยั้งชั่งใจในตันหาราคะ คุณคงจะทำใจได้แล้วก็คงไม่รู้สึกอะไรใช่มั้ยคะ ถ้าแม่ของลูกคุณไปนอนกับผู้ชายคนอื่น เหมือนกันค่ะ ถ้าคุณอยากให้ผู้หญิงเข้าใจในธรรมชาติของผู้ชายคุณจะตอบคำถามพวกนี้กับลูกคุณได้ยังไงคะ ว่าพ่อเขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น และไม่มีความซื่อสัตย์

>เห็นคอมเมนต์ผู้ชายบางคนแล้วรู้สึกอายแทนเลย  ตอนพิมพ์มานี่ไม่ได้รู้สึกละอายใจบ้างเรอะ  แฟน/เมียก็มีอยู่  แต่ก็ยังคงไปทำได้  ยิ่งบางคนมองเป็นเรื่องปกติมากกกกก  บางคนทุเรศหนักเลย โยงร้อยแปดพันเก้าหมื่นสิบแสนสิบเอ็ดล้านสิบสอง ไปถึงขั้นบอกว่า "อะเหื้อ(เสียงหล่อ) ตั้งแต่เกิดมาอ่ะนะครับ(เสียงหล่อ) ไอ้กระผ้มก็ไม่เคยเห็นใครมีอะไรกับผู้หญิงแค่คนเดียวเลยนะครับ(เสียงหล่อ) อะเหื้อ(เสียงหล่อ)"  คือใครอาจจะเห็นความเห็นนี้ผ่านตากันมาบ้าง คือมันเกี่ยวไรครับ?  นี่แยกปัจจุบันกับอดีตไม่ออกเลยหรอ? หรือหมายถึงไอ้การมีอะไรกับผู้หญิงหลายๆคนนี่คือทำในขณะที่มีคู่อยู่แล้ว ถ้าใช่นี่คือ..ะ มากเลยครับที่มองการกระทำแบบนี้ถูกต้องปกติ  แล้วก็บอกเลยนะครับ  สังคมคุณมันเป็นแบบนั้นครับ ในสังคมผม เขาเป็นแบบที่คุณไม่เคยเห็นนั่นล่ะครับ  ไม่ใช่คุณภาพระดับนักปํ๊ม  เห็นไอ้ความเห็นแบบนี้เยอะ อยากจะตอบในคอมเมนต์อยู่นะ แต่เกลียดการพิมพ์ซ้ำๆ แยกไว้ข้างนอกนี่ล่ะ เห็นกันดี  แล้วก็นะ เพราะพวกคุณมันเป็นซะแบบนี้ไง เห็นปัญหา -> คิดว่ายุ่งยากปวดหัว -> ไม่สนใจ วางเฉย  จนสุดท้ายปัญหามันก็ทับถมกันจนใหญ่เป็นปัญหาบ้านแตก ฆ่ากันบ้าง ฆ่าตัวเองบ้าง เป็นบ้าบ้าง นำไปสู่ปัญหาอาชญากรอื่นๆได้อีก  มันเกิดจากไอ้ความคิดขี้เกียจนี่ล่ะ คุณทำเหมือน "อุเบกขา" แต่มันไม่ใช่  นั่นมันใช้กรณีที่แก้ปัญหาไม่ได้แล้วปล่อยไปแล้วไม่เกิดปัญหาร้ายแรง  แต่นี่มันความขี้เกียจ ความสิ้นคิด ความไม่พยายาม ที่จะนำไปสู่ปัญหา