ทุ่งสังหาร” (KILLING FIELD) ประเทศกัมพูชา
ทุ่งสังหาร” (KILLING FIELD) สถานที่กองกำลังเขมรแดงในอดีตใช้ประหารนักโทษทางการเมือง โดยมีวิธีการฆ่าก็เป็นไปอย่างหฤโหด คือ จับนักโทษเอามือไพล่หลัง ให้นั่งคุกเข่าแล้วผู้คุมจะใช้ไม้ตีต้นคอ ไม่ว่าจะเป็นเสียม จอบ หรือไม้ตีเบสบอลเอามาใช้ฆ่าคนได้ทั้งสิ้น เป็นการประหยัด เพราะถ้าใช้ลูกปืนยิงจะแพงกว่าเอาไม้ตี
ใกล้ๆกับทุ่งกว้างนั้นยังมีต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น ลักษณะคล้ายต้นก้ามปูบ้านเรา ต้นหนึ่งไว้ใช้ติดเครื่องขยายเสียง หรือลำโพงเอาไว้ถ่ายทอดเสียงนักโทษที่ชอบร้องครวญครางก่อนจะถูกฆ่า เพื่อให้ได้ยินโดยทั่วกัน จะได้ไม่กล้ากรีดร้องกันมากนัก เพราะการร้องจะทำให้เพิ่มความน่ากลัวกันไปใหญ่ ส่วนต้นก้ามปูอีกต้นหนึ่ง เรียกว่า ต้นไม้สังหาร จะใช้กับเด็กๆ ไม่ว่าเด็กเล็กหรือเด็กโต
ผู้คุมจะจับสองเท้ารวบเข้าหากันแล้วจับฟาดเปรี้ยงกับต้นไม้ เด็กเล็กๆ จะเสียชีวิตทันที แล้วจากนั้นก็โยนลงหลุม บางหลุมถูกฆ่ายกครอบครัวพ่อแม่ลูก บางหลุมขุดขึ้นมาแล้วไม่พบหัวเลยก็มี เป็นผีหัวขาด เหลือแต่โครงกระดูก นักโทษเหล่านี้อาจจะเป็นปัญญาชนหรือนักโทษที่หัวรุนแรง ไม่ก็พวกที่มีแนวคิดต้องต้านเขมรแดง เลยตัดหัวเสียบประจานเสียก่อนจะส่งตัวมายังทุ่งสังหาร
ห้องเรียนเปลี่ยนเป็นห้องขัง ผนังปูนสีเหลืองหม่นและพื้นตารางขาวเหลืองสีกระดำกระด่าง ทำให้ซากเตียงสนิมเขลอะซึ่งเคยรองรับร่างนักโทษที่ถูกทรมานจนตายคาเตียงมานับไม่ถ้วนดูทมึนอย่างบอกไม่ถูก บนเตียงที่ปูด้วยเสื่อขาดกระรุ่งกระริ่งมีกะป๋องสี่เหลี่ยมเล็กๆ สำหรับใส่อุจจาระปัสสวะวางอยู่ ดอกลั่นทมสีขาวบอบบางวางบนจอบเก่าคร่ำคร่า อาวุธซึ่งใช้ประหัตประหารผู้ถูกคุมขัง ดูเสมือนเป็นความกลมกลืนที่ขัดแย้ง รูปศพผู้ถูกคุมขังที่นอนตายเลือดเจิ่งนองพื้นอย่างน่าสังเวชอนาถใจ ใบหน้าถูกจามเละด้วยจอบบนผนังเพิ่มความสยดสยองให้ผู้พบเห็น
เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ทรมานนักโทษเพื่อให้สารภาพ ไม่ว่าจะเป็นอ่างน้ำ ราวห้อยหัว ที่ช๊อตไฟฟ้า มีด คีมดึงเล็บ ที่หนีบหัวนม และอะไรต่อมิอะไรที่ยากแก่การบรรยาย จัดวางให้เห็นอย่างเรียบง่าย สะท้อนบรรยากาศดิบๆ อย่างตรงไปตรงมา
ใช่ว่านักโทษเท่านั้นที่เจ็บปวดรวดร้าว แม้แต่ผู้คุมที่ใช้ชีวิตวัยเยาว์ในการห่ำหั่นทำร้ายผู้อื่นก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน รูปเปรียบเทียบผู้คุมในวัยชราปรากฏดวงตาที่ไร้สุขมิเคยเปลี่ยนแปลงแม้กาลเวลาจะผันผ่านเนิ่นนานเพียงใด
คาดว่าน่าจะมีคนมาสังเวยชีวิตราว 20000 ศพ มิใช่ 17000 ศพ ตามรายงาน มันมากเสียจนต้องส่งไปฝังที่อื่น หนึ่งในนั้นคือ Choeung Ek
สนามหญ้าเขียวชอุ่มที่ประดับประดาด้วยดอกลั่นทมสีขาว รายรอบด้วยแมกไม้นาๆ พันธุ์ร่มครึ้ม สายลมโชยมาเบาๆ ลูบไล้เหงื่อออกจากใบหน้า
เราคงเอนกายพักใจอย่างรื่นรมย์ถ้ามันไม่ใช่ เป็น 'Killing field' หรือ 'ทุ่งสังหาร' ของเขมร
อนุสรณ์เจดีย์ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบใหม่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า มีฐานล่างรูปทรงเหลี่ยมทาสีขาวมีตู้กระจกอยู่ตรงกลาง ภายในบรรจุเศษเสื้อผ้าของคนตายอยู่ชั้นล่างสุด เมื่อแหงนมองขึ้นไปจะเห็นกองหัวกะโหลกละลานตาตามกลุ่มอายุลดหลั่นเป็นชั้นๆ ขึ้นไปจนสุดลูกหูลูกตา
credit : http://www.oknation.net/blog
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น